วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ชั่วโมงที่ ๑

                ทำไมคนเราจึงไม่ตระหนักถึง “เวลา” สิ่งสมมติที่มีค่ามากอีกอย่างหนึ่งในโลกนี้?
                “ทุกสิ่งในโลกนี้ มีเวลาของมันเอง”
                คำกล่าวที่ ได้ยินมาจากชายคนหนึ่ง ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตและประโยคที่ตามมา คือ “เหตุที่มันมีเวลา ก็เพราะว่า เราไปกำหนดกะเกณฑ์สิ่งเหล่านั้นเป็นช่วงๆ ไว้นั่นเอง”
                ประโยคนี้ ทำให้ผมสะท้อนมุมมองออกเป็น 2 แง่มุม คือ
                มุมหนึ่ง คือ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือบังคับ สิ่ง (ทุกสิ่ง) ให้เป็นไปตามที่เราต้องการหรือปรารถนา เพราะว่ามันมีเวลากำหนดอยู่ ซึ่งเวลานี้เอง ก็คือ เหตุปัจจัยต่างๆ ที่มาประกอบกัน ยกตัวอย่าง เช่นว่า เราปลูกมะม่วงไว้เพื่อจะทานผลมะม่วง เราไม่อาจให้มะม่วงที่เราปลูกเช้าวันนี้ ออกดอกออกผลในเย็นวันนี้ หรือเดือนนี้  ปีนี้ได้ และก็ไม่อาจให้มีผลเป็นมะนาวได้เช่นกัน
                อีกแง่มุมหนึ่ง คือ คนเรานั้นชอบมองแบบตัดตอน คือ ดูที่ต้น และ ปลาย โดยที่ไม่ดูท่ามกลาง คือเล็งแต่เพียงผลลัพธ์ ไม่ได้พิจารณาเวลาของมัน คือ  เรามองแต่เพียงว่า ปลูกมะม่วง-3 ปีแล้วได้ผลมะม่วง เราต้องการเพียงผลมะม่วง เราลืมไปว่า เมื่อปลูกมะม่วงนั้น กว่าที่เมล็ดมะม่วงจะแตก จะโตขึ้นมาเป็นต้นกล้า และเติบใหญ่มียอดมีใบจำนวนมาก มีช่อของดอก และสุดท้ายเกิดเป็นผลมะม่วงนั้น มีช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ มีเหตุปัจจัยประกอบต่างๆ มากมายระหว่างทางแห่งการเติบโต มีแต่ละขณะหรือช่วงของเหตุ ช่วงของผล เกิดขึ้นต่อเนื่อง หรือว่า ต้องผ่านหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว กันหลายปี
คนเราเองก็เช่นกัน เราไม่อาจตอบได้ว่า จะ “มีเวลา” ยืนยาวเพียงใด หรือเมื่อใดที่เราจะประสบสิ่งที่เรียกว่า “ความสำเร็จ” เพราะแต่ละขณะของชีวิต มีหลายปัจจัยเข้ามาทักทายหรือทดสอบชีวิตเรามากมาย ทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว และมาในแบบที่เราเรียกมันว่า “เวร” หรือว่า “กรรมเก่า” ก็ตาม  แต่ทุกอย่างล้วนมีเหตุและมีผลเกิดขึ้นตลอดเวลาต่อเนื่องทุกขณะ จนเรามองข้ามเหตุและผลที่เกิดขึ้นทุกขณะเหล่านี้ไป และมองแต่เพียงผลขั้นปลายหรือที่เราต้องการเท่านั้น  ทำให้บางครั้ง เราก็ไปนิยาม “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นว่า “ความล้มเหลว”
“ทุกสิ่งในโลกนี้ มีเวลาของมันเอง”
สุดท้ายนี้  แม้ว่า เราจะไม่ได้เป็นผู้กำหนดกะเกณฑ์สิ่งเหล่านั้นเป็นช่วงๆ ไว้  คนเราก็ยังตั้งครรภ์ประมาณ 9 เดือน, สุนัขตั้งท้องราว 2 เดือน, ปลาวาฬตั้งท้องราว 12 เดือนหรือ 1 ปี อยู่ดี  ทุกอย่างในโลกนี้ เราไม่อาจกำหนดให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ แต่มันก็  มีเหตุและมีผล ของมันเสมอ เพียงแต่ว่า เราจะอดทนรอดู ผลของเหตุที่เราต้องการได้นานแค่ไหนเท่านั้นเอง

 เมื่อมีสิ่งนั้น สิ่งนี้จึงมี


นี่ คือ คำ ที่เรียงร้อยจากความคิดปรุงแต่ง                  วรรณพุทธ์  เพียง คำ คำหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น