พูดถึงเรื่องนี้ก็ต้องระวังให้มากครับ..เพราะพวกเค้า
คือ "ผู้มีอิทธิพล"
บทความนี้ ไม่มีเจตนาให้ดูน่ากลัวเหมือนหัวข้อ..ลองอ่านดู
คำว่า
“ผู้มีอิทธิพล” อาจฟังแล้วรู้สึกเป็นลบ
หรือไม่ดี หรือน่ากลัว แต่ขอปรับใหม่ให้เป็นอย่างกลาง ๆ
ผู้มีอิทธิพลนี้ไม่ได้หมายถึง
คนที่เป็นมาเฟีย คนที่เป็นนักเลงมีพรรคพวกมาก
แต่ขอหมายถึง สิ่งที่มีอำนาจหรือมีส่วนในการดลใจ หรือกดดัน หรือผลักดัน
หรือมีอิทธิพลเหนือจิตใจเรานั่นเอง ซึ่งไม่จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นตัวบุคคล
อาจเป็นหนังสือสักเล่ม หรือเหตุการณ์สักอย่าง ซึ่งส่งผลให้เรากระทำการต่าง ๆ
ทั้งที่เรียกว่า “ดี” และ “เลว”
หากพิจารณาจากความหมายที่กำหนดไว้ บางทีอาจจะใช้คำว่า “ผู้เป็นแรงบันดาลใจ” แต่ไม่ขอใช้คำนี้ เนื่องจาก “ผู้เป็นแรงบันดาลใจ” นั้นมักส่งเสริมให้เรากระทำไปในทางที่ดี หรือผลักดันจิตใจเราไปในทางที่เป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเองและสังคม
ลองคิดดูว่า
“ผู้มีอิทธิพล” ต่อคุณคือใคร หรืออะไร?
ผู้มีอิทธิพลของแต่ละคน
อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ตามแต่ช่วงเวลา ซึ่งล้วนส่งผลต่อความคิดทั้งสิ้น
สมัยเราเป็นเด็ก ผู้มีอิทธิพลต่อเราเป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณครู
ต่อมาวัยรุ่น
เพื่อนเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อเรา บางคนอาจเป็นดาราหรือนักร้อง ที่เรียกกันว่า idol
วัยทำงาน อาจเป็นเจ้านาย, บริษัท หรือหุ้นส่วน
เมื่อมีครอบครัว ภรรยาสุดหวงหรือลูกสุดที่รัก
ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ส่งผลให้เราคิดและทำการต่าง ๆ
แตกต่างกันไป
คราวนี้ลองพิจารณา
สิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตัวบุคคล เช่น หนังสือ, ข่าวสาร, เหตุการณ์ เป็นต้น หนังสือหรือข่าวสารมีอิทธิพลต่อเราอย่างไร
เมื่อเราอ่านหนังสือ เราก็จะซึมซับเอาความหมาย, ความรู้จากเนื้อหาที่อ่าน
สมอง/จิตใจของเราก็จะหมายรู้หรือจำเอาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปเมื่ออ่าน ใจของเราจะพยายามกำหนดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ซึ่งก็จะสะท้อนออกมาในรูปแบบพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น หัวเราะ, ยิ้ม หรือร้องไห้
หรืออาจจินตนาการต่อออกไปจากเนื้อหาเดิม บางครั้งที่เนื้อหาไม่ตรงหรือเข้ากันกับใจของตัวเอง
ก็จะปฏิเสธออกมา แสดงเป็นอาการทางคำพูด หรือทำการวางหนังสือลง
เราอาจมองว่า สิ่งเหล่านี้ทั้งหมด คือ “ผู้มีอิทธิพล”
แต่หากลองสังเกตให้ดี เราจะพบว่า “ผู้มีอิทธิพลที่แท้จริง” คือ...
เมื่อเราพบผู้มีอิทธิพลแล้ว
เราก็อาจจะทำการสอบสวน สืบสาว หรือจับกุมคุมขัง หรือปล่อยให้ลอยนวล ขึ้นอยู่กับ
ผู้มีอิทธิพลเสนอผลประโยชน์แก่เราหรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ ผลประโยชน์ที่
ผู้มีอิทธิพลเสนอให้นั้น เราก็ควรมองเป็นคุณประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น จึงจะเป็นการดี
“ผู้มีอิทธิพล” ก็อาจกลายเป็น “ผู้มีบารมี” ในที่สุด
นี่แหละ คือ ผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐธรรมนูญ
นี่ คือ “คำ” ที่เรียงร้อยจากความคิดปรุงแต่ง วรรณพุทธ์ เพียง “คำ” คำหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น