รางวัลเลขท้าย
2 ตัว ประจำงวดวันนี้ เดือนที่แล้ว ปีหน้า เลขที่ออก คือ 00
“00” เขียนว่า “ศูนย์ศูนย์” อ่านออกเสียงว่า “สูนสูน” พ้องเสียงว่า “สูญสูญ”
ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยซื้อ เหตุผลง่าย ๆ คือ เสี่ยงโชคเอาสนุก ๆ แต่พอวันหวยออก ก็แอบมีลุ้นกับเค้าเหมือนกัน
และทุกครั้งที่ลุ้นก็มักถูก(กินเสมอ) แต่ปัจจุบันก็มีซื้อนาน ๆ แล้วก็นาน ๆ ครั้ง ถ้าจำไม่ผิด 3 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ซื้อเลย
มีบ้างที่เอาตัวเลขในฝันมาซื้อ
ซึ่งนานมาก กว่าที่จะฝันเป็นเลขสักตัวหนึ่ง และพอตื่นก็มักจะจำตัวสุดท้ายไม่ได้
และก็ไม่ยอมซื้อจนกว่าวันรุ่งขึ้นหวยจะออก
สุดท้ายก็หาเลขที่จะซื้อไม่ได้หรือไม่มีขาย หรือไม่ได้ซื้อ ก็ไม่รู้นี่ว่าหวยจะออกเลขอะไร
หากเป็นเหตุผลแล้ว มันก็ไม่เกี่ยวกับตัวเลขในฝันเลย
หลายคนคงเคยบอกว่า เสียดายที่ไม่ได้ซื้อทั้ง ๆ ที่มีลางสังหรณ์ อาจฝันถึง อาจเพราะรถที่ขับเฉี่ยวชน
อาจเพราะป้ายแดง อาจเพราะเป็นวันที่แฟนทิ้ง และหลายคนคงเคยบอกว่า เสียดายที่ซื้อ
น่าจะสลับหน้าหลัง น่าเป็นตอง น่าจะอะไรสารพัด สุดท้ายเหมือนกันคือ เสียเงิน
และเสียมากกว่าตัวเลข 40 บาทด้วยซ้ำ
“หวย” หรือภาษาบ้าน ๆ ว่า “เบอร์” ภาษาทางการว่า “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ชื่อมันก็บอกในตัวอยู่แล้วว่า “สลากกิน” แล้วก็ “แบ่งรัฐบาล”
ส่วนคนซื้อก็ “ถูกกินเงิน” แล้ว “เงินเข้ารัฐบาล” หากคิดแบบเล่นคำ คือ
“หวย”
มาจาก “ห. หายนะ” “ว.วอดวาย” “ย.ย่อยยับ” นึกเป็นภาพแล้ว..เฮ้อ...
ความเป็นจริงนั้น
โอกาสที่จะถูกรางวัลที่ 1 นั้น น้อยมากเหมือนที่ทราบคือ 1 ในล้าน
แต่ทำไมคนเราจึงชอบซื้อหวยกันนัก
บางคนบอกว่าเป็นการลงทุน อย่างนี้คงไม่ใช่ เพราะการลงทุนนั้น
๑.เงินต้นต้องไม่สูญหาย
๒.มีผลตอบแทนที่เหมาะสม
แต่หวย คือ การพนัน (ที่ถูกกฎหมาย)
มาลองคิดดูแบบการลงทุนว่า
เงิน 1 บาทที่ซื้อหวย เพื่อลุ้น"เลขท้าย 2 ตัว"
ซึ่งโอกาสถูกเพียง 1/100 จะได้รับรางวัล 70 บาท
และโอกาสผิดถึง 99/100
จะไม่ได้เงินคืนเลย
ดังนั้นผลตอบแทนที่ได้รับทุกครั้ง หากเราจ่ายเงิน 1 บาทออกไป
คือ
{( 70 X 1/100) + ( 0 X 99/100)} = 0.70 บาท หรือ 70 สตางค์
มองเป็นภาพว่า
เราเอาเงิน 40 บาทให้กับกองสลากแลกกับกระดาษที่มีตัวเลขอยู่
จากนั้นกองสลากเอาไปหักค่ากระดาษ ค่าพิมพ์ แล้วก็คืนให้เรา 28 บาท นี่คือคิดแบบความน่าจะเป็นและผลตอบแทน
แต่ในความเป็นจริง กองสลากไม่คืนเลยสักบาทเพราะว่าแบ่งให้รัฐไปแล้ว...
มามองที่ตัวของ
“หวย” ในแง่กฎหมาย ถือว่า ถูกต้อง ในแง่ศีลธรรมอันดีของทุกศาสนา
ถือว่า เป็นการพนัน
มองในแง่คุณค่าหรือประโยชน์ของมัน
ซึ่งบางคนบอกว่า เงินที่ได้จากหวย ก็เอาไปช่วยรัฐ ช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาส
เป็นการช่วยเหลือสังคม คนขายหวยก็มีงานทำ เป็นการกระจายรายได้
เรามามองกันใหม่ได้ไหม??
จากผล คือ ผู้ด้อยโอกาสได้รับความช่วยเหลือ
มาจากเหตุอะไรได้บ้าง?
คำตอบ คือ มีวิธีการที่ดีมากมาย ลองคิดดูสิครับ...
เช่นกัน
จากผล คือ คนขายหวยมีงานทำ มาจากเหตุอะไรบ้าง?
หาก เราตัดคำว่า “หวย” ออก และใส่อย่างอื่นเข้าไป เช่น “ข้าวแกง” “สินค้า OTOP” เป็นต้น คนก็มีงานทำเหมือนกันและถูกต้องเหมาะสม
ส่วนในแง่โทษนั้น
ไม่ต้องพูดถึง แต่เอาเถอะ ขอสักหน่อย
อย่างแรก เสียเงินแน่นอน
และมีบางอย่างที่ไม่ใช่ผลของการซื้อหวย แต่มีความเกี่ยวเนื่องกันทางด้านเหตุ คือ
ความงมงาย การขูด ลูบ เลีย หาเลขเด็ดจากสิ่งต่าง ๆ การขอเลขจากอาจารย์คนโน้นที
จากหลวงพ่อคนนั้นที แล้วก็บอกคนทั่วโลกว่า บ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธ
มันเหมาะหรือครับ??
เราต้องสามารถแยกประเด็นให้ออกได้จริง ๆ ที่บางคนกล่าว
มันเป็นเหตุเป็นผลกันหรือไม่
หรือว่ามันเป็นเงื่อนไขเพื่อสนองความต้องการบางอย่าง กิเลสที่แอบแฝงอยู่ในรูปของคุณค่า หรือ คุณค่าเทียม
(ผู้เขียนไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรที่เหมาะสม เลยขอใช้คำว่า
คุณค่าเทียม)
ในความคิดของผู้เขียน รัฐบาลไหนที่ส่งเสริมหรือสนับสนุน “หวย” หรือบางคนอาจเรียกชื่อเป็นอย่างอื่น ผู้เขียนเห็นว่ารัฐบาลหรือนักการเมืองคนนั้นกำลังทำลายประเทศชาติ ทำให้คนในประเทศหลงผิด จนอาจเห็นเงินสำคัญกว่า “ศีลธรรม” สุดท้ายประเทศก็ค่อย ๆ ล่มจมอย่างช้า ๆ
ก่อนท้ายสุดนี้
ผู้เขียนไม่ได้ห้ามเรื่องซื้อหวย แต่อยากชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าอะไร
ควรใช้เหตุผลในการซื้อ ไม่ควรงมงาย หรือแม้แต่ตอนจะซื้อหวย ก็อย่าให้ความโลภมาครอบงำจนเสียเงินเป็นร้อยเป็นพัน
หากแม้ซื้อไปแล้วก็อย่าไปพะวงหรือห่วงรางวัล ทำเป็นลืมไปซะ
เมื่อถึงวันหวยออกหรือออกไปแล้วเป็นสัปดาห์ค่อยมาดูมาตรวจ
และระวังกิเลสมันจะเข้ามาตอนนี้แหละตอนที่เราลุ้นกันตัวโก่ง
สุดท้าย
อยากฝากตัวเลข 960 (อ่านว่าเกือบพันบาท) ไว้ ซึ่งไม่ใช่เลขเด็ด แต่มันเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำหากเราซื้อสลากกินแบ่ง (แบบถูกกฎหมาย) ทุกงวดใน 1
ปี
คำว่า “หวย” สะกดว่า หายนะ วอดวาย ย่อยยับ
เมื่อเงินนั้นถูกกิเลสกินแบ่งไป
นี่ คือ “คำ” ที่เรียงร้อยจากความคิดปรุงแต่ง วรรณพุทธ์ เพียง “คำ” คำหนึ่ง